ภาษาฝรั่งเศส เป็นภาษาที่ได้รับความนิยมในหมู่นักเรียนไทยมากอีกภาษาหนึ่ง ทุกคนสามารถเรียนภาษาฝรั่งเศสได้ แต่ถ้าจะเรียนให้ได้ดีนั้นไม่ใช้เรื่องง่าย คนที่จะเรียนภาษาฝรั่งเศสให้ได้ดีนั้น ต้องมีความอดทน เพราะไวยากรณ์ภาษาฝรั่งเศสมีความซับซ้อน หากไม่ตั้งใจเรียนก็จะไม่ประสบความสำเร็จ
เมื่อเริ่มเรียนภาษาฝรั่งเศส ต้องรู้ว่า
1. ภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษาที่มี 2 เพศ นอกจากจะต้องท่องคำศัพท์แล้วจะต้องท่องด้วยว่า คำ ๆ นั้นเป็นเพศหญิงหรือเพศชาย เช่น โต๊ะ = une table เป็นเพศหญิง เพศผิดจะมีผลต่อโครงสร้างประโยคด้วย
2. ภาษาฝรั่งเศสมีการกระจายกริยาตามประธานของประโยค เช่น v.être ที่แปลว่าเป็น อยู่ คือ มีรูปกริยาถึง 6 แบบที่ผันตามประธาน คือ
Je suis……..
tu es………..
il/elle est………….
nous sommes………….
vous êtes…………
ils/elles sont…………….
ประธาน
สรรพนามประธานในภาษาฝรั่งเศสมีทั้งหมด 9 ตัว
โดยแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มบุรุษสรรพนาม
บุรุษที่ 1
Je ฉัน ผม ดิฉัน ฯลฯ แทนบุรุษที่ 1 เอกพจน์
Nous พวกเรา พวกผม พวกดิฉัน ฯลฯ แทนบุรุษที่ 1 พหูพจน์
บุรุษที่ 2
Tu เธอ คุณ เอกพจน์ ใช้กับคนคุ้นเคย คนในครอบครัว ญาติสนิทมิตรสหาย ไม่เกี่ยงเรื่องความแตกต่างของอายุ สนิทกันก็ใช้ได้
Vous บุรุษที่ 2 ตัวนี้มีการใช้ที่หลากหลาย เพราะสามารถหมายถึง
คุณ เอกพจน์ ใช้กับคนไม่คุ้นเคย หรือคนที่ต้องให้เกียรติ
พวกคุณ พหูพจน์ ใช้กับคนไม่คุ้นเคยหรือคนที่ต้องให้เกียรติ
พวกเธอ พหูพจน์ ใช้กับคนคุ้นเคย (พหูพจน์ของ Tu)
บุรุษที่ 3
il/elle เขาผู้ชายและเขาผู้หญิงเอกพจน์ มัน
ils/elles พวกเขาผู้ชายและพวกเขาผู้หญิงพหูพจน์ พวกมัน ถ้ามี
หญิงชายอยู่รวมกันถือเป็นเพศชายพหูพจน์ใช้ ils
นอกจากนี้ยังมี On ซึ่งมีความหมายกว้าง ไม่เจาะจงว่าประธานเป็นกลุ่มใด ส่วนใหญ่จะเหมารวมทั้งคนพูด คนฟังและคนอื่น ๆ ด้วยพร้อม ๆ กัน
เมื่อใช้ประธานตัวใดตัวหนึ่ง จะต้องกระจายกริยาให้ตรงกับประธานตัวนั้น ๆ ดังเช่น
กริยา ETRE
Je suis
Tu es
Il/elle/on est
Nous sommes
Vous êtes
Ils/elles sont
คำนามในภาษาฝรั่งเศสมี เพศและพจน์ คำนำหน้านาม จึงเปลี่ยนไปตามเพศและพจน์ของคำนามนั้น ทั้งเพศและพจน์มีผลต่อการสร้างประโยคมาก
คำนำหน้านาม 3 กลุ่มที่ต้องรู้จักคือ
1. Articles indéfinis คำนำหน้านามไม่ชี้เฉพาะมี 3 ตัวคือ
un + คำนามเพศชายเอกพจน์ เช่น un garçon
une + คำนามเพศหญิงเอกพจน์ เช่น une fille
des + คำนามชายหรือหญิงพหูพจน์ เช่น des filles
ใช้เมื่อมีการกล่าวถึงคน สัตว์ หรือสิ่งของเป็นครั้งแรก
2. Articles définis คำนำหน้านามชี้เฉพาะมี 3 ตัวคือ
le + คำนามเพศชายเอกพจน์ เช่น le garçon
la + คำนามเพศหญิงเอกพจน์ เช่น la Lune
les + คำนามชายหรือหญิงพหูพจน์ เช่น les filles
จงสังเกต
à+le ð au
à+la ð à la
à+les ð aux de+le ð du
de+la ð de la
de+les ð des
ใช้เมื่อเจาะจงชี้เฉพาะไม่ว่าคนสัตว์หรือสิ่งของ หรืออะไรก็ตามที่มีสิ่งเดียวในโลก เช่น le Soleil, la Lune เป็นต้น
3. Articles partitifs คำนำหน้านามที่ไม่สามารถกำหนดปริมาณได้แน่นอน นิยมใช้กับการกิน การซื้ออาหาร และนามที่เป็นนามธรรม ได้แก่
du + คำนามเพศชาย เช่น du pain
de la + คำนามเพศหญิง เช่น de la patience
de l’ + คำนามเพศชายหรือหญิงขึ้นต้นด้วยสระหรือ H muet เช่น de l’eau , de l’huile
des + นามชายหรือหญิงพหูพจน์ เช่น des légumes
Articles indéfinis และ articles partitifs จะเปลี่ยนเป็น de เมื่อเป็นประโยคปฏิเสธ เช่น
Nous avons une voiture. ð Nous n’avons pas de voiture.
ยกเว้นเมื่อใช้กับกริยา Etre เช่น Ce n’est pas du coton.
เมื่อมีเพศหญิงและเพศชายอยู่รวมกัน ให้ถือเป็นเพศชายพหูพจน์
Articles indéfinis Articles définis Articles partitifs
ชายเอกพจน์ un le du หรือ de l’
หญิงเอกพจน์ une la de la หรือ de l’
ชาย/หญิงพหูพจน์ des les des
ผู้เรียนจึงต้องใส่ใจที่จะจำกฎ เพราะถ้าจำกฎไม่ได้ การกระจายกริยาจะผิดไปจากธรรมชาติของภาษาทันที
คนที่เรียนภาษาฝรั่งเศสเพื่อที่จะประสบความสำเร็จจะต้องทุ่มเท สม่ำเสมอกับการเรียน และจะต้องใช้ภาษาฝรั่งเศสได้อย่างมีประสิทธิภาพทั้งฟัง พูด อ่าน และเขียน เนื่องจากคนฝรั่งเศสนิยมมาเที่ยวเมืองไทยมากขึ้น สถิติจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยพบว่า ปีที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวจากฝรั่งเศส เพิ่มขึ้นถึงกว่า 29% ดังนั้นภาษาฝรั่งเศสจึงเป็นภาษาที่มีอนาคตดีอีกภาษาหนึ่งทีเดียว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น