บทความที่ได้รับความนิยม

วันเสาร์ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2555

Le petit déjeuner อาหารเช้า Breakfast

ภาษาฝรั่งเศส ตอน อาหารมื้อเช้า Les repas = มื้ออาหาร Le petit déjeuner = อาหารมื้อเช้า Pain beurré = ขนมปังทาเนย Confiture = แยมทาขนมปัง Miel = น้ำผึ้ง æuf à la coque = ไข่ลวก Cereals = ซีเรียล (อาหารเช้าสำเร็จรูป) Croissant = ขนมปังครัวซองต์ Baquette = ขนมปังฝรั่งเศส (บาแก๊ต) การรับประทานอาหารของคนฝรั่งเศส อาหารเช้าโดยทั่วไปจะเป็นครัวซองส์ (croissants) หรือขนมปังแบบต่างๆ ทาเนยและแยม ส่วนเครื่องดื่มจะเป็นกาแฟใส่นมหรือชอกโกแลตร้อนๆ และอาหารเช้าสมาชิกในครอบครัวทุกคนไม่ได้มามานั่งกินด้วยกัน ส่วนอาหารกลางวัน ก็ยังไม่ใช่อาหารหลัก ยกเว้นสำหรับคนฝรั่งเศสในชนบท ร้านอาหารในเมืองจะเปิดช่วงกลางวันระหว่างเวลาเที่ยงถึงบ่ายสองโมงเท่านั้น แล้วจึงจะเปิดอีกครั้งตอนมื้อเย็น แต่มื้อเย็นจะเป็นมื้อหลัก เป็นเวลาที่สมาชิกในครอบครัวหรือเพื่อนฝูงมาใช้เวลาอยู่ด้วยกัน คนฝรั่งเศสอาจใช้เวลาที่โต๊ะอาหารเย็นได้นานถึง 2 ชั่วโมง! คนฝรั่งเศสถือว่าการดูทีวีระหว่างกินอาหารเย็นเป็นมารยาทที่ไม่ดี คนฝรั่งเศสกินอาหารแบบเรียงตามลำดับหรือคอร์ส จบไปทีละคอร์ส ไม่วางอาหารทุกอย่างบนโต๊ะแล้วนั่งล้อมวงกันกินเหมือนคนไทยและคนอเมริกัน โดยทั่วไปจะมี 3 คอร์สคือ entré, plate principal และ cheese course หรือ dessert ถ้าเสิร์ฟแบบครบ ก็เพิ่มอีก 3 เป็น 6 คอร์ส เริ่มจาก aperitif หรือออร์เดิร์ฟ แล้วเป็น entré ซึ่งมักจะเป็นซุป ตามด้วยอาหารจานหลักที่เป็นเนื้อสัตว์ ต่อด้วยสลัดแล้วตามด้วยเนยแข็ง ปิดท้ายด้วยของหวานหรือผลไม้พร้อมกับกาแฟ ส่วนขนมปัง ไวน์ และน้ำแร่จะมีเสิร์ฟตลอดเวลาที่กินอาหาร การกินขนมปังของคนฝรั่งเศสแตกต่างจากคนอเมริกันและอังกฤษ คือจะวางไว้ให้บนผ้าปูโต๊ะ คนฝรั่งเศสจะใช้ส้อมจิ้มขนมปังเช็ดทำความสะอาดจานเมื่อจบแต่ละคอร์ส เพราะคอร์สต่างๆ มักจะเสริฟในจานเดียว ยกเว้นในงานเลี้ยงอย่างเป็นทางการจึงจะแยกจาน คนฝรั่งเศสใช้มีดและส้อมในการกินอาหารเกือบทุกอย่าง แม้กระทั่งเฟร้นฟรายส์ โดยถือมีดด้วยมือขวา และมือซ้ายถือส้อม ไม่มีการเปลี่ยนมือไปมาเหมือนคนอเมริกัน การวางมือบนโต๊ะอาหาร ที่ฝรั่งเศส แม้จะไม่วางศอกบนโต๊ะ แต่สามารถวางมือไว้บนโต๊ะอาหารได้ ที่สำคัญ ไม่ควรขอหรือใส่เครื่องปรุงเพิ่มเติมลงในจานอาหารที่เสริฟ ยกเว้นเกลือและพริกไทย เพราะอาหารฝรั่งเศสขึ้นชื่อว่าเยี่ยมยอดของโลกแล้ว จึงไม่ต้องการให้มีการปรุงแต่งเพิ่มเติมอีก

วันอาทิตย์ที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2555

Au café

Au café มาดื่มกาแฟกัน Let’s have a cup of coffee. ร้านกาแฟในฝรั่งเศส หรือ Le café มักจะเป็นร้านที่ขายทั้งเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ (ฺBoisson non-alcolisée) และ เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ (ฺBoisson alcolisée) ร้านที่ขายเฉพาะกาแฟอย่างเดียว แบบบ้านเราหาได้ยากมาก ร้านส่วนใหญ่มักเป็นร้านดั้งเดิม เปิดให้บริการมาเป็นเวลายาวนาน le café ในประเทศฝรั่งเศสเป็นหนึ่งในไม่กี่สถานที่ที่เปิดทำการแทบจะทุกวัน จากเช้าตรู่ยันดึกสำหรับร้านที่ตั้งอยู่ในย่านชุมชนหนาแน่น เมื่อเราเดินเข้าร้าน จะมี บริกร Garçon เดินเข้ามาหา Garçon มักจะทักทายลูกค้าด้วยประโยค Bonjour (บอง-ชูร), vous êtres combien? (วู-แซท-กอม-เบียง)เป็นการถามว่าลูกค้ามากันกี่คน บริกรจะเชิญเราไปที่โต๊ะที่เหมาะสม (ที่ว่าง) พร้อมเมนู ก่อนจะรับการสั่งอาหาร บริกรจะพูดประโยคต่างๆ เหล่านี้ Puis-je vous servir quelques choses? (ปุอิ--เฌอ--วู--แซคร-วี--แกล-เกอ--โชส) Vous désirez/souhaitez/voulez quelques chose? (วู--เด-ซิ-เคร/ซู-แอท-เต้/วู-เล--แกล-เกอ--โชส) ตัวอย่างเครื่องดื่มที่เราจะเห็นเป็นประจำในรายการเครื่องดื่ม Le café (กา-เฟ่), Le thé (เต), les boissons gazeuses : Coca (โก-กา) , Sprite (สไปรท), Perrier (แป-คริ-เย่) : น้ำโซดา ในส่วนเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ จะมี La bière pression (บิ-แย--เพรส-ซิอง) , Le cidre (ซิดดร), Le kir (กีคร) และเหล้าทั่วๆ ไป เวลาจะสั่งเครื่องดื่ม เราจะสั่งว่า Je prends (เฌอ--พรอง) + (ชื่อเครื่องดื่มที่ต้องการจะดื่ม) เราอาจจะเจาะจงเพิ่มอีกนิดว่าเป็นเครื่องดื่มขนาดเท่าไร เช่น Je prends un verre de bière pression = ขอเบียร์หนึ่งแก้ว ควรปิดท้ายประโยคการสั่งด้วยคำว่า S'il vous plaît (ซิล--วู--ปเล)

วันเสาร์ที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2555

เตรียมทำใบงานที่ 2

นักเรียนที่น่ารักทุกคน Je suis contente de vous connaitre et voir votre devoir. มาดามดีใจมากที่เห็นผลงาน แบบฝึกหัด และใบงานที่ส่งเป็นเอกสารและส่งมาทาง mail Bienvenue นักเรียนม.4 ขอต้อนรับและยินดีที่รู้จัก ขอใหศึกษาการทำงานจากพี่ ม.5 และ ม. 6 ซึ่งเป็นแบบอย่างที่ดีมาโดยตลอด n'est-ce pas ?

สิ่งที่น่ารู้เกี่ยวกับประเทศฝรั่งเศส ICI, LA FRANCE

La civilisation française (วัฒนธรรมประเทศฝรั่งเศส) La France physiques (ภูมิประเทศ) France physiques (ภูมิประเทศ) • La Côte d’Azur est est au bord de la mer Méditerranée. (ชายฝั่งทางตอนใต้ติดทะเลเมดิเตอร์เรเนียน) • La Côte d’Azur est est au bord de l’océan Atlantique. (ชายฝั่งตะวันตกติดมหาสมุทรแอตแลนติก) • La seule partie de la France qui ne donne pas sur une mer est l’est. (ตะวันออกเป็นส่วนที่ไม่ติดทะเล) • On appelle la region dand le sud de la France “Le Midi”. (ทางใต้ของฝรั่งเศสถูกเรียกว่า เลอ มิดิ) • La frontier naturelle entre la France et l’Angleterre est La Manche. (ชายแดนธรรมชาติระหว่างฝรั่งเศสและอังกฤษ) • Le port de l’océan Allantique est La Rochelle. (ท่าเรือ La Rochelle อยู่ฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติก) • Le port de la mer du Nord est Le Havre, Deauville. (ท่าเรือ Le Havre, Deauville อยู่ทางเหนือ) • Le port de la Manche est Dunkerque, Calais, Boulugne. (ท่าเรือ la Manche คือ Dunkerque, Calais, Boulugne )

คำที่ใช้ในชั้นเรียน

คำที่ควรทราบและทำความเข้าใจ เพราะจะพบบ่อยในชั้นเรียน Ecoutez ! Levez-vous ! Regardez ! Lisez ! Encore une fois ! Bravo ! D'accord ! Au revoir. และอื่น ๆ อีกมากมาย ลองหัดพูดและหาความหมายของแต่ละคำ